แฮมเบอร์เกอร์กับแซนวิชแตกต่างกันอย่างไร

"แฮมเบอร์เกอร์" กับ "แซนวิช"

นั้นมีความคล้ายคลึงกันอย่างมากเราอาจจะงงว่า

แบบไหนคือ "แฮมเบอร์เกอร์" 

แบบไหนคือ "แซนวิช"

วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจนั้นกัน

แซนวิชมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ในสมัยศตวรรตที่ 18 โดยขุนนางท่านหนึ่งในอังกฤษ ชื่อว่า เอิร์ลแห่งแซนวิชที่ 4 เกิดหิวขึ้นมาขณะอยู่ในวงการพนัน กลัวถ้าออกไปกลางคันจะเสียรูปเกม จึงสั่งพ่อครัวทำอาหารที่ทานง่ายๆ ไม่เสียเวลา พ่อครัวจึงนำ เนื้อสัตว์และชีส ประกบด้วยขนมปัง2 แผ่น โดยที่ทานแล้วไม่เลอะมือ เพราะ น้ำในเนื้อสัตว์ได้ถูกซับด้วยขนมปัง จึงเกิดเป็นอาหารชนิดใหม่ขึ้นมา ซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในช่วงเวลานั้น และตั้งชื่อตามขุนนางที่เป็นผู้ริเริ่มขึ้นมา "แซนวิช" ขนมปังสีขาว หรือ white-bread ในยุคปัจจุบันที่คนไทยคุ้นเคยกันมากที่สุด มักจะถูกนำมาใส่ไส้กลางด้วย ผัก ชีส และเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกแบบง่ายๆ เช่น ทูน่า ปูอัด ไก่ทอด หรือเป็นพวก coldcut อย่าง แฮม ซาลามี่ เป็นต้น ส่วนใหญ่จะเสิร์ฟแบบเย็น

แฮมเบอร์เกอร์ นั้นมีต้นกำเนิดมาจากเมือง ฮัมบูร์กประเทศเยอรมัน ในช่วงใกล้ๆกันกับแซนวิช โดยในเยอรมันเริ่มนิยมทานเนื้อสัตว์มากขึ้น จึงมีการประยุกต์นำขนมปังมาเป็นส่วนประกอบในจานอาหาร แล้วค่อยมาแพร่หลายต่อมาในสหรัฐอเมริกา "แฮมเบอร์เกอร์" ขนมปังทรงกลม หรือ bun ในปัจจุบันจะพบเห็นได้บ่อยตามร้าน fast-food ทั่วไป เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อหรือหมูบด ชีส เบคอนทอดกรอบ และผักสด มักจะทานในขณะร้อนๆ

สรุปง่ายๆก็คือ
1. แซนวิชส่วนมากใช้ขนมปังแผ่น ส่วน แฮมเบอร์เกอร์จะใช้ขนมปังกลม
2. แซนวิชส่วนมากจะทานแบบเย็นๆ ส่วน แฮมเบอร์เกอร์จะทานแบบร้อนๆ
3. แซนวิชเป็นอาหารทานเล่นไม่ค่อยหนักท้อง ส่วน แฮมเบอร์เกอร์ชิ้นเดี้ยวก็อิ่มแล้ว
4. แซนวิชจะใส่เนื้อสัตว์ชิ้นเล็กๆบาง ส่วน แฮมเบอรืเกอร์จะเป้นสเต็กทั้งชิ้น